พัฒนาตนเองกันสักหน่อยกับการตัดสินใจลงคลาส Loved and Found และ Improvisation ที่เราไม่รู้อะไรมาก่อนเลยว่า “มันคืออะไร” ที่ Action Play ที่สุดท้ายแล้วมีคำถามให้กับตัวเอง และอนาคตข้างหน้าของเราเกิดขึ้นมากมาย
ทำไมถึงลงคลาส Loved and Found และ Improvisation
แท้จริงแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ที่เราได้คำแนะนำจากเพื่อน, นักจิตวิทยา และ จิตแพทย์ ที่แนะนำว่าคลาสเกี่ยวกับการแสดง อาจจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางการใช้ชีวิตของเรา ที่มีปัญหาเรื่องชีวิตคู่ไม่น้อย (เพราะเราเองเป็นคนใจร้อนมาก) ซึ่งแฟนเราเองจึงลองหาคลาสต่างๆมากมาย สุดท้ายเรามาลองลงเอยกันที่ Loved and Found และ Improvisation ที่ Action Play (I’m Park สามย่าน)
ก่อนลงคอร์สนี้ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย เพียงแต่ขอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดกับปัญหาของตัวเอง ที่จะพาชีวิตคู่ให้มีความสุขมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่นั่นเอง ฉะนั้นกล่าวบอกเลยว่าแม้กระทั่งชื่อคลาส และเนื้อหาอะไรต่างๆของมัน ก็ไม่ทราบอะไรเลยจนกระทั่งเข้าห้องเรียน!!!
คลาส Loved and Founded @ Action Play
รูปแบบคลาส
คลาสนี้เริ่มต้นตั้งแต่ “ก่อน” เริ่มด้วยซ้ำไป เพราะการบ้านก่อนการเข้าคลาสคือหาหนังหรือซีรีส์ที่คิดว่าเป็นตัวของเราเองมากที่สุด
ซึ่งหลังจากที่แฟนทักมาว่าได้การบ้านมาด้วย เราเองนึกถึงหนังเพียงเรื่องเดียวขึ้นมาในหัวเลยทันที เพราะมันคงเข้ากับความพยายามของเราอยู่ในเวลานี้ ขณะที่แฟนเราเองก็ใช้เวลาพักใหญ่ในการหาคำตอบ
แต่สุดท้ายแล้วพบเลยว่า “ทั้งคู่” มองไปที่ “การงาน” ก่อนสิ่งอื่นใด (และพบว่าทั้งคู่แทบไม่ใช่คนดูหนังและซีรีส์ที่เกี่ยวอะไรกับชีวิตตัวเองมากสักเท่าไหร่ เพราะดูแต่พวกตลกหรือเบาสมองมากกว่าหนังชีวิตนั่นเอง)
เราได้พบสิ่งที่ไม่เคยเห็นในตัวเรา
การเลือก “หนังหรือซีรีส์” เรื่องเดียวที่เป็นตัวเองมากที่สุด คือ ทุกอย่างที่จะรันเข้ากับคลาสนี้ตั้งแต่เริ่มจนจบเลยนะ เพราะนี้คือโรงเรียนสอนการแสดง สิ่งที่ถูกปูพื้นเข้าเรื่องมาจึงอยากให้เรา “เข้าใจ” ตัวละครในเรื่องนั้นนั่นเอง
เพราะการให้เราเลือกตัวละครที่เป็นตัวเรามากที่สุด จึงทำให้เรารู้สึกอินกับการรันคลาสอย่างมาก ตั้งแต่
(อธิบายเยอะมากไม่ได้ ให้เห็นหัวข้อพอเนอะ แค่นี้ก็สปอยคลาสเยอะมากแล้ว)
- การแนะนำตัวเองเบื้องต้นให้กับเพื่อนๆในคลาสฟัง
- การให้เล่าเรื่องหนัง/ซีรีส์ให้กับคู่บัดดี้เรา
- การเล่าเรื่องที่บัดดี้เล่าให้ฟังให้กับผู้อื่น
- การให้วาดภาพซีนประทับใจในหนัง/ซีรีส์
- การออกแบบท่าทางของตัวละครที่เกิดขึ้นจากหนัง/ซีรีส์เรื่องนั้น
- การเขียนจดหมายถึงตัวละครจากหนัง/ซีรีส์เรื่องนั้น
หากอ่านดูแล้วจริงๆ มันก็เหมือนไม่มีอะไร แต่กลับกลายเป็นว่า ผู้เข้าคลาสทุกคนค่อยๆใส่ความรู้สึกของ “ตัวละคร” ไปสู่ “ตัวเอง” มากขึ้นเรื่อยๆ .. จนกลายเป็น Highlight ของเราเอง ที่ทำให้พบว่าแท้จริงแล้วตัวเราเองในตอนนี้เป็นอย่างไร มีความรู้สึกแบบไหน และ อยากจะให้ตัวเองเป็นแบบไหนกันแน่
จริงๆแล้ว เราก็แอบตกใจกับการลำดับคลาสนี้เหมือนกันนะ ที่ทำไมทำให้เราได้เห็นภาพนี้ขึ้นมา ทั้งๆที่มันอยู่กับตัวเรามาตลอด แต่เรากลับไม่รู้สึกมัน และนั่นคือ ประโยชน์ที่ได้รับจากคลาสอย่างมาก
นอกจากนั้น ด้วยการที่เราเองมาเป็นคู่ มากับภรรยา มันทำให้ “กระจก” ที่สะท้อนตัวเราเองถูกถ่ายทอดให้เห็นจากภรรยา และ ความรู้สึกของภรรยาที่ถ่ายทอดจากตัวละครก็ได้เห็นจากกระจกที่แสดงออกโดยเรา .. มันทำให้ “เราทั้งคู่” ได้เห็นหลายสิ่งจากคลาสๆนี้อย่างมาก
เรียกง่ายๆว่า โคตรดีย์ จริงๆนะ
เราเห็นอะไรในมุมอื่นๆของคลาสนี้
จริงๆมันตั้งแต่เริ่มคลาสจนตอนจบเลยนะ มันมีความคิดในหัว(นอกจากที่เขียนเกี่ยวกับตัวเองข้างบน) เพิ่มอีกหลายมิติมากๆว่า
- เราพบว่า ชีวิตของคนอื่นๆก็มีปัญหาไม่แพ้กัน แหงละสิ ทั้งคลาสไม่มีใครเลือกเรื่องที่ไม่มีปัญหาชีวิตเลย
- เราพบว่า มันคือคลาสเทรนนิ่งที่ดีมากๆ ที่สามารถพัฒนาบุคคลได้อย่างยิ่ง เราคิดอยากจะบอกต่อหรือส่งคนให้ลองมาเทคคอร์สสักหน หรือแม้กระทั่งอยากลองทำ Workshop นี้ในบริษัทตัวเองด้วยซ้ำ
- เราอยากให้เด็กๆ น้องๆ ได้เข้าคลาส มาลองดูสักครั้ง มันมีอะไรได้จากคลาสนี้ไม่น้อยเลยนะ
ประเมินให้ครูและคลาสกันสักหน่อย
คลาสนี้ให้ 100 เต็ม 10 เลย .. มันอาจจะเว่อร์ไปหากคนเข้าคลาสเข้ามาแล้วไม่ได้มีปัญหาอะไรกับชีวิต แต่มันดูเหมาะมากที่เกือบทั้งคลาสดันมีปัญหาชีวิตมาไม่มากก็น้อยนั่นเอง
สุดท้าย : เราได้อะไรจากคลาส Loved and Founded
ได้เห็นความรู้สึกของตัวเอง(และแฟน)ที่เป็นอยู่ และที่อยากจะเป็น .. ล้ำค่ามากๆ
คลาส Improvisation @ Action Play
คลาสนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับเราสักทีเดียว เพราะมันคือ คลาสฝึกการแสดง(ขั้นต้น) .. ที่ให้เราแสดงท่าทีออกมาให้คน ซึ่งเอาจริงๆเลย เราไม่เข้าใจคลาสนี้เลย ตลอดคลาส (ไม่เข้าใจถึงขนาดที่ว่า .. ตอนนี้จะเขียนอะไรก็ยังไม่รู้ (เพราะ ณ เวลาที่เขียน ผ่านไปสองสัปดาห์แล้ว ฉะนั้นเขียนเท่าที่ทำได้นะ)
ช่วงต้นของคลาส คือ การเดินช้า เดินเร็ว แสดงท่าทางต่างๆ ร่วมกันเพื่อนร่วมคลาส …
จุดไฮไลท์นี้คือ การที่ครูบอกว่า ให้เราเดินสปีด 1 หรือ 10 .. หรือพูดว่าให้เดินไวที่สุด .. เดินไวกว่านี้ เดินไวกว่านี้ได้อีก ..
จุดนี้เป็นเพียงจุดเล็กๆ ที่ทำให้เราพบว่า จริงแล้ว .. ทุกคนทำได้มากกว่าลิมิตของที่ตัวเองคิด เพียงแต่ว่า ทุกคนไม่กล้าที่จะทำมันนั่นเอง
แต่เรามาสัมผัสสิ่งที่ประทับใจมากๆ ในตอนช่วงท้ายของคลาส .. ที่มีผู้ช่วยคลาส มาบิ้วให้ทุกคนเป็นเสมือนนักล่ารางวัล ที่กำลังมาทำตามความฝัน
การบิ้วของน้องเขา ทำให้เราได้รับพลังอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เรากล้าแสดงออก ในแบบที่เราไม่เคยเป็น และต่อหน้าผู้คนที่เราไม่รู้จักอีกด้วย
เอ้ย เราชอบจุดนี้นะ … มันคือ 10-15 นาทีท้ายๆของคลาส ที่ทำให้เรารับรู้ได้เลยว่า ถ้าในอยู่ในแวดล้อมที่ถูกบิ้วให้กล้าคิดกล้าทำ .. เราว่า เราทำได้นะเว้ย!!!
จริงๆ คลาสหลังยอมรับเลยว่า ไม่รู้จะสรุปอะไร เพราะมันเป็นช่วงอึนๆ มึนๆ ว่า เรามาเรียนอะไรวะ เลยจดจำอะไรมันไม่ได้มากนั่นเอง!!!
สุดท้ายก็ขอทิ้งท้ายนิดนึง …
ครูกุ๊กไก่ รังสิมา ผู้ดำเนินคลาส
จริงๆ รีวิวคลาสคงต้องเขียนอธิบาย “ผู้บรรยาย” ก่อน แต่เราเองก็ตั้งใจไว้ตอนท้ายๆ ด้วยเหตุผลอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นคือ เราเองไม่รู้เลยว่า “คลาสนี้คืออะไร” และ “ใครเป็นคนสอน”
แต่ว่ามารู้ และ หาข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากจบคลาสก็พบว่า ครูกุ๊กไก่ คือ เจ้าของโรงเรียน action play ที่เป็นโรงเรียนสอนการแสดง และยังเป็น Acting Coach ผู้สอนและอยู่เบื้องหลังซีรีส์ดังหลายเรื่องอาทิเช่น เลือดข้นคนจาง หรืออยู่ในรายการดังสมัยเรายังเป็นวัยว้าวุ่นอย่าง Academy Fantasia (AF) ล่าสุดในแฟนเพจพบว่า ญาญ่า อุรัสยา ก็มาที่โรงเรียนนะ(แต่มาทำอะไรรอติดตามชมก็แล้วกัน)
หากจะหาข้อมูลครูกุ๊กไก่ ก็ลองหาชื่อใน Google ดูจะพบว่า สัมภาษณ์เอย podcast เอย มีเยอะแยะไปหมด ไปทำความรู้จักครูกุ๊กไก่เพิ่มเติมได้เลยนะ!!!
ขอขอบคุณเพื่อนร่วมคลาส
พี่ปลา ที่ไม่ค่อยได้ร่วมกิจกรรมสักเท่าไหร่ แต่ชอบที่พี่ตั้งใจฟังน้องๆทุกคนมากๆ / น้องปาล์ม น้องผู้ซึ่งมียุ่น ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ เดอะมูฟวี่ เป็นตัว Copy ชีวิต / น้องบีม ที่เริ่มลองหาตัวเองตั้งแต่วัยมัธยมศึกษา / น้องไข่พลอย ผู้ซึ่งได้ทำให้เราเห็นพัฒนาการของน้องอย่างรวดเร็วเพียงแค่ 2 วัน (สู้ๆนะ ทั้งพี่และพี่กิ่ง อยากรู้จักกันมากกว่านี้นะ น้องน่าจะคุยสนุกนะ มีอะไรทักมาได้นะ 555 ) / และ น้องเหนือ ผู้กล้าที่กล้าปลดปล่อยทุกสิ่ง (สู้ๆนะน้องเหนือ น้องมีอะไรที่น่าสนใจมากๆเช่นกัน) จนทำให้เรากล้ามากขึ้นเช่นกัน “ยินดีที่ได้รู้จัก” ทุกคนนะครับ
น้องสตาฟประจำโรงเรียน ที่ขออภัยจริงๆ ไม่ทราบชื่อ ผู้ซึ่งถ่ายพลังโค้งสุดท้ายของคลาสให้กับใครหลายคน จริงๆตอนนั้นรู้สึกว่าเอ้ยมีคนกระตุ้นเราแล้วนะ เราต้องเอาก่อนกลับบ้านนะเว้ย / และคนสุดท้าย / ครูกุ๊กไก่ รังสิมา อิทธิพรวณิชย์ ที่ทำให้เห็นภาพหลายอย่างจากคลาส 2 วันนี้ และ ทิ้งท้ายกับหลายสิบนาทีหลังคลาสในการให้คำแนะนำการใช้ชีวิตคู่ของพวกเรา
ขอบคุณมากครับ!! กับประสบการณ์ใหม่ๆของเราสองคน
Kuntana A.
อดีตผู้ลองทำอะไรเยอะแยะไปหมด ^^ แต่ปัจจุบันคงเหลือแค่ Kingkong Premium (รับทำของพรีเมี่ยม ของแจกทุกชนิด), Friday Fabric (รับทำเสื้อ) และทำนำเข้าสินค้าจากจีนเล็กๆกับภรรยา ติดตามเราในช่องทางอื่นได้ที่ FB: kuntanaang และ Twitter : @kuntanaang
Follow Me:
และถ้าแบรนด์สินค้าและบริการใด อยากให้เราได้ใช้บริการอะไร หรือได้ลองสินค้าตัวไหน ก็ส่งมาได้นะ ^^ มันอาจจะเป็นบล็อคที่เงียบเหงา ผู้ติดตามไม่น้อย แต่ผู้เขียนรู้เทคนิคการเขียนบทความให้ติดอันดับ SEO ได้นะครับ ฉะนั้นอาจเป็นจุดแข็งที่คุณอาจสนใจเราก็เป็นได้