True Food น้องใหม่ล่าสุดของ Food Delivery ที่ปัจจุบันเปิดตัวกันไปแล้วหลายเดือน โดยอยู่ภายใต้แอฟ True ID ในเวลานี้ กับความคิดเห็นของเราว่าก้าวต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับวงการ Food Delivery หลังจาก True ขอเข้ามาร่วมชิงพื้นที่ให้บริการนี้
TRUE FOOD มาแน่
หากใครได้ติดตามข่าว จะพบว่า True Food ได้ส่งข่าวไปยังเว็บข่าวต่างๆมากมาย ไม่แน่ใจว่า Advertorial หรือ Press Release แต่พบข้อมูลมากมายทั้ง Brandbuffet, TheStandard, Manager เป็นต้น ซึ่งจะเห็นว่า Food Delivery ได้เกิด True Food เข้ามาร่วมชิงสังเวียนแห่งนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัวแบบที่ไม่มี GP เหนือคู่แข่งรายใหญ่ทั้งหมด (และเทียบกับ Robinhood) ทำให้ร้านอาหารจำนวนมาก พร้อมที่จะเข้ามาเข้าร่วม platform ได้อย่างไม่ลังเล
ค่า GP Food Delivery เปรียบเทียบในตลาด
หากดูตารางค่า GP ที่ตามเว็บไซต์ และแฟนเพจต่างๆได้ทำข้อมูลมาเผยแพร่ จะพบว่า ยังไม่มี True Food เข้าไปอยู่ในข้อมูล อาจเพราะยังอาจไม่ใช่คู่แข่งตัวจริงในตลาดนี้ แต่เชื่อเถอะว่าเขามาแน่ (ข้อมูลจาก Sanook.com)
ข้อดีของ True Food ที่ได้ลองใช้บริการ
เราเองได้ลองใช้ True Food มาแล้ว 2 ครั้ง ได้พบข้อดีและข้อเสียต่างๆในเบื้องต้นคือ
ข้อดีของ True Food
หากใครเป็นลูกค้า True ที่มี True Point อยู่แล้ว จะพบว่ามีข้อดีมากๆ
- ใช้ True Point เป็นส่วนลด ค่าอาหารได้ สูงสุด 150 บาท
- ใช้ True Point เป็นส่วนลด ค่าส่งได้ สูงสุด 90 บาท
- ใช้ True Wallet เป็นการชำระเงินได้
โดย True Food ในเวลานี้ใช้ Lalamove เป็น Partner ในการเป็น Rider ให้ (จากการสังเกตุชุดของไรเดอร์ทั้งสองครั้ง)
ข้อเสียของ True Food
ความเร็วของหน้าแอฟที่ใช้งาน คือข้อเสียเดียวที่มีของทั้งหมดในเวลานี้ เพราะว่า จะโหลดช้ากว่าแอฟอื่นมากๆ แต่เราก็มั่นใจมากว่า รออีกไม่นาน True Food จะออกแอฟที่ Stand alone ไม่ได้ผูกกับ True ID มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานแบบเต็มตัวแน่นอน
สิ่งที่เห็นได้ชัดของการเข้าร่วมตลาด Food Delivery ก็คงมองภาพไม่ต่างจาก SCB ที่ออกมาลุย Robinhood คือการดึงผู้ใช้งานทั้งจากฐานลูกค้าเดิม และฐานลูกค้าใหม่ให้เกิดขึ้นมากที่สุด
โดย True มีข้อได้เปรียบที่ต้องการดึงให้เกิดการใช้งาน True Wallet มากขึ้น และ ยังใช้ True Point มาเป็นตัวล่อให้เกิด Business Ecosystem ของ True ครบวงจรยิ่งขึ้น
ร้านค้าเปิดกับ True Food ได้ประโยชน์อะไรบ้าง
หลังจากลองหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า True Food ก็ให้ประโยชน์กับร้านค้าไม่น้อยเช่นกัน สำหรับวันที่ True Food กำลังสร้างอาณาจักร Food Delivery ให้มาร่วมแข่งขันได้
- ฟรีค่าสมัคร และไม่เก็บค่า GP (31 ธ.ค. 63 – 31 ธ.ค. 64)
- ใช้เน็ต ทรู กิกะเทค ไฟเบอร์ ฟรี 12 เดือน (มูลค่ารวม 7,188 บาท) และสมัครบริการ ทรูมูฟ เอช แบบเติมเงิน/รายเดือน ในราคาพิเศษกว่าใคร
- ส่วนลดซื้อวัตถุดิบราคาพิเศษผ่านแอป ทรู สมาร์ต เมอร์ชันต์
- โปรโมทร้านให้ฟรีผ่าน SMS 500 เบอร์ ยิ่งมีลูกค้าสั่งออเดอร์ก็โปรโมทเพิ่มให้อีก >> มี 10 ออเดอร์/เดือน ส่ง SMS โปรโมทเพิ่มอีก 500 เบอร์ >> มี 50 ออเดอร์/เดือน ส่ง SMS โปรโมทเพิ่มอีก 3,000 เบอร์
(ข้อมูลจาก https://www.facebook.com/TrueSmartMerchant/photos/a.172283126805362/743235979710071/)
สำหรับแม่เหล็กแรกที่ทรูดึงร้านเข้ามาก็จะเห็นเลยว่า Benefits ที่ได้รับจะเข้ากลุ่มทรูโดยตรงไม่ว่าจะเป็น ได้ร้านค้าเพิ่ม, เน็ตซิม, ดึงเข้ามาซื้อวัตถุดิบในเครือได้ ซึ่งล้วนแล้วคือการดึงให้มาใช้บริการสินค้าของทรูทั้งสิ้น (ซึ่งสามารถมองว่าให้เปลี่ยนที่ใช้งานจากค่ายหรือบริษัทอื่นมาอยู่ที่นี้นั่นเอง)
บทสรุป
หลังจากนี้ Food Delivery จะระอุกว่าเดิมอย่างแน่นอน เมื่อ True Food กำลังสร้างสรรพกำลังเข้ามาแย่งส่วนแบ่งนี้ โดยใช้ Business Ecosystem ทั้งหลายที่มีดึงร้านค้าเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร แน่นอนว่า หลังบ้านไม่รู้ว่าจะดุเดือดแค่ไหน แต่สำหรับผู้บริโภคน่าจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย
และถ้าแบรนด์สินค้าและบริการใด อยากให้เราได้ใช้บริการอะไร หรือได้ลองสินค้าตัวไหน ก็ส่งมาได้นะ ^^ มันอาจจะเป็นบล็อคที่เงียบเหงา ผู้ติดตามไม่น้อย แต่ผู้เขียนรู้เทคนิคการเขียนบทความให้ติดอันดับ SEO ได้นะครับ ฉะนั้นอาจเป็นจุดแข็งที่คุณอาจสนใจเราก็เป็นได้